การปลูกมะขามยักษ์

มะขามเปรี้ยวเป็นไม้ผลที่ปลูกง่าย การดูแลไม่ยุ่งยาก สามารถขึ้นได้ดีในดินแทบทุกชนิด เช่นดินลูกรังดินดาน ดินเหนียว ดินทราย แต่ดินทีเหมาะสมที่สุดจะเป็นดินร่วนปนทราย ซึ่งมีการระบายน้ำที่เพราะมะขามเป็นพืชทนแล้ง มะขามเปรี้ยวให้ผลดก ติดฝักง่าย ต้นไม่สูงมาก เป็นทรงพุ่มกิ่งจะขยายออกด้านข้างมีฝักขนาดใหญ่ ให้เนื้อในปริมาณที่มากกว่ามะขามเปรี้ยวทั่วๆ ไป ผลผลิตประมาณ 1 ต้น/ตัน หลังจากที่ต้นมีอายุประมาณ 10 ปีไปแล้ว สามารถเก็บฝักกินได้เป็นร้อยๆ ปี ใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่ยอดอ่อน ฝักอ่อนส่งโรงงานน้ำพริก ฝักดิบนำไปแปรรูปเป็นมะขามแช่อิ่มที่ไร่เราขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 100-120 บาท ฝักแก่ที่นำมาทำเป็นมะขามเปียกแกะเมล็ดขายได้ประมาณกิโลกรัมละ 18-40 บาท และมะขามยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นได้อีกหลายอย่างน้ำหนักของฝักก็มาก ประมาณ 5-10 ฝัก/กิโลกรัม แต่ในขณะนี้ทีไร่เราทำได้ประมาณ 3 ฝัก/กิโลกรัม ในต้นอายุประมาณ 11 ปี ส่วนเนื้อของมะขามเปรี้ยวมีกรดทาริทาริคสูงประมาณ 12-14% มะขามเปียกยังประกอบด้วยกรดอินทรีย์หลายชนิดจึงมีรดเปรี้ยว ทั้งยังมีสาร “แพคติน” และ“กัม” อยู่ด้วยทำให้มีฤทธิ์เป็นยาระบายช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย นอกจากเนื้อมะขามเปรี้ยวจะมีวิตามินสูงแล้ว ใบมะขามอ่อน ดอกมะขามและฝักอ่อนมะขามก็ยังมีวิตามินซีสูงด้วยเช่นกัน จึงมีผู้นำมาประกอบอาหารต่างๆ ได้มากหลายอย่าง เนื้อมะขามเปรี้ยวยักษ์เวลาสุกจะเป็นแดงน้ำตาลมีรสเปรี้ยวกว่ามะขามธรรมดาประมาณ 2 เท่า

การดูแลโรคและแมลงรบกวน

มะขามเปรี้ยวยักษ์ เป็นพืชทนแล้งสามารถเจริญเติบโตได้ดีแม้ในพื้นที่ที่แห้งแล้ง ธรรมชาติของมะขามมีความแข็งแรงทนทานมาก มะขามเปรี้ยวจะเริ่มสลัดใบในช่วง มีนาคม-เมษายน ในช่วงหน้าร้อนยิ่งแล้งก็ยิ่งร่วง แต่หลังจากที่รับน้ำในต้นฝน มะขามเปรี้ยวก็จะแตกใบอ่อน และในการแตกใบอ่อนก็จะออกดอกติดฝักมะขามจะออกหลายชุดใน 1 ปี แต่ในหนึ่งชุดนั้นจะมีหลายชุดประมาณ 10-20 ชุด ชุดแรกจะออกในช่วงต้นฝนประมาณพฤษภาคมแต่ก็ยังติดไม่มากนัก บางครั้งเจอลมเจอฝนออกก็อาจจะร่วง ส่วนชุดถัดไปจะเริ่มติดมากขึ้นในแต่ละรุ่นการสุกก็จะอยู่ไล่เลี่ยกัน ใช้เวลาตั้งแต่ออกดอกจนถึงฝัก แก่ก็ประมาณ 3-4 เดือนเลยทีเดียว แต่ถ้าจะเก็บฝักดิบในการนำไปแช่อิ่มจะอยู่ประมาณกันยายน-ตุลาคม ชุดแรกฝักแก่ประมาณธันวาคมแล้วก็ไล่ไปเรื่อยจนถึงชุดสุดท้าย อาจเก็บฝักแก่ประมาณ มีนาคม วิธีจะดูว่าฝักมะขามจะเก็บได้หรือยังในฝักแก่หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า มะขามกอก เราจะสังเกตจากสีของเปลือกมะขามจะมีสีน้ำตาลนวลๆ หรืออาจเป็นสีน้ำตาลเหลือง เวลาสุกให้ใช้นิ้วดีดเบาๆ จะมีเสียงออกกลวงๆ แต่ถ้ายังไม่สุกเสียงในการดีดฝักจะออกแน่นๆ ในฝักที่สุกแล้วใช้นิ้วขูดที่ผิวของฝักจะไม่เป็นริ้วรอย เนื้อจะแห้งยุบตัวแยกออกจากเปลือก โรคของมะขามเปรี้ยวที่อาจจะเกิดคือโรคของแมลงรบกวนมากัดกินใบอ่อนบ้างแต่ไม่มาก ส่วนอีกโรคคือโรคราแป้งขาว จะเกิดเชื้อระบาดรุนแรง ในสภาพอากาศที่เย็นและแห้ง ซึ่งจะทำให้ต้นมะขามโทรม ถ้าเป็นในช่วงออกดอกติดฝักจะทำให้ลดจำนวนลง มักเกิดในช่วงปลายฝนเราสามารถใช้กำมะถันผงฉีดพ่นช่วงเย็นๆ ประมาณ 1-2 ครั้ง ราแป้งก็จะหายไป

การตลาด

เป็นพืชเศรษฐกิจที่จะสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกร มะขามเปรี้ยวเป็นไม้ผลยืนต้นที่สามารถเก็บกินเป็นร้อยๆ ปี มะขามอยู่คู่ครัวคนไทยมานาน มะขามเป็นไม้ผลพื้นบ้านที่ขึ้นอยู่ตามสถานที่ทั่วๆ ไป เป็นไม้ผลที่ขึ้นง่ายไม่ต้องดูแลมากและมีคุณประโยชน์มาก มีสรรพคุณทางสมุนไพรเป็นยาระบายที่ดีเยี่ยม นำมาประกอบอาหารได้มากมายสามารถแปรรูปได้หลายอย่าง มะขามเปรี้ยวยักษ์พันธุ์นี้เกิดจากการกลายพันธ์มาจากมะขามกระดานจากอำเภอโพธารามจังหวัดราชบุรี นำมาปลูกโดย พลโท รวมศักดิ์ ชัยโกมินทร์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 จังหวัดพิษณุโลก ได้มะขามเปรี้ยวฝักขนาดใหญ่ 4-5 ฝัก/กก. สมัยก่อนมะขามเปรี้ยวเป็นไม้ผลที่ถูกคนมองข้ามเพราะเปรียบเสมือนไม้ข้างถนนที่คนไม่ค่อยให้ความสำคัญ แต่ในปัจจุบันมะขามเปรี้ยวยักษ์กลับมีคนกล่าวขานกันมากขึ้นในเรื่องของความดกและความใหญ่ของฝัก และที่สำคัญในตอนนี้มะขามเปรี้ยวเป็นที่ต้องการของต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศทางตะวันออกกลางซึ่งสั่งซื้อมะขามเปรี้ยวจากเมืองไทยเป็นจำนวนมาก และในแต่ละปีความต้องการใช้มะขามเปียกมีจำนวนมากขึ้น มีความต้องการเป็น 100 เป็น 1000 ต้นเลยทีเดียว ซึ่งบางปีที่มะขามเปรี้ยวในบ้านเราเราขาดแคลน
โรงงานประเภทน้ำพริกก็จะซื้อมะขามเข้ามาจากพม่า จากลาว หรือจากเขมร โดยมะขามเปรี้ยวจากพม่า จะนำเข้ามาทางแม่สอดในช่วงระหว่างเดือน เมษายน-พฤษภาคม ประเทศที่มีความต้องการมะขามเปรี้ยวมากที่สุดในขณะนี้คือประเทศอาหรับ จากข้อมูลที่ทางไร่วิวัชจรัลวงศ์ได้จากลูกค้าที่มาซื้อกิ่งพันธุ์ไร่ของเรา เขาส่งมะขามเปรี้ยวให้ประเทศอาหรับอยู่ เนื่องจากประเทศอาหรับมีสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง ในฤดูร้อนจะประสบปัญหาในเรื่องการขาดแคลนน้ำ คนอาหรับจะนำมาขามเปรี้ยวไปอมไว้เพื่อเรียกน้ำลายแล้วกลืนเพื่อคลายความอยากน้ำ นี่เป็นข้อมูลหนึ่งที่เราได้รับแลกเปลี่ยนจากลูกค้าของเรา ส่วนตลาดส่งออกทีสำคัญอื่นๆ คือ ปากีสถาน มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย ซาอุดิอาระเบีย คูเวต แอฟริกาใต้ บรูไน สิงค์โป แคนนาดา เป็นต้น